การประกันชีวิตผ่านตัวแทนประกันชีวิต

การประกันชีวิต มี 2 ชนิด
1. มีเงินปันผล
2.ไม่มีเงินปันผล

การประกันชีวิต มี 3 ประเภท
1. กลุ่ม
2. อุตสาหกรรม
3. สามัญ

แบบพื้นฐาน ประกอบด้วย แบบชั่วระยะเวลา , แบบตลอดชีวิต , แบบสะสมทรัพย์ , แบบเงินได้ประจำ

ทำประกันชีวิต หรือ ประกันสุขภาพ เพื่อ

1. สิทธิหักลดหย่อนภาษี บุคคลธรรมดาได้ปีละ 100,000 บาท
(ประกันชีวิตแบบระยะเวลาคุ้มครองไม่ต่ำกว่า 10 ปี ลดได้)
2. ให้เป็นมรดก กับลูกหลานหรือผู้มีส่วนได้เสียกับท่านได้ (สามี+ภรรยา,นายจ้าง+ลูกจ้าง,เจ้าหนี้+ลูกหนี้ ได้)
3. ค่ารักษาพยาบาลเบิกได้ ตามเบี้ยประกัน จ่ายสินไหมให้
4. เป็นการออมทรัพย์ และให้ผลตอบสูง แน่นอน ถ้าครบอายุสัญญา ได้เงินคืนครบ พร้อมดอกเบี้ยตามรายละเอียดสัญญา
5. กรมธรรม์กู้ได้ เมื่อขาดสภาพคล่อง ความคุ้มครองยังเหมือนเดิม แต่อาจจะได้น้อยลง ตามเงินที่กู้ไปบวกดอกเบี้ยนั้น
6. มีรายได้ยามเกษียณอายุ
7. คุ้มครอง โรคร้ายแรง ต่าง ๆได้ (ท่านต้องยังไม่เป็นโรคดังกล่าว ถึงจะทำได้) เช่น โรคมะเร็ง , โปลิโอ ,ถุงลมปอดโป่งพอง , ตับแข็ง , กล้ามเนื้อเสื่อม ,การแข็งต้วของเนื้อเยื่อโดยทั่วไป และโรคอื่นๆได้ (เพิ่มเติมสัญญาได้ เช่นโรคหัวใจ ,เบาหวาน ,หลอดเลือดสมอง ,ตับ ไต วาย , ไฟไหม้ , ตาบอด และอื่น ๆ )
8. คุ้มครองการเกิดอุบัติเหตุ ในอนาคตได้ และได้ค่าชดเชยจากการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล จากการสูญเสียอวัยวะ หรือพิการ ทุพพลภาพ
9. คุ้มครอง รายได้ ค่าใช้จ่าย หนี้สิน ทั้งหมด เมื่อท่านจากไป คนข้างหลังมีเงินก้อนไว้ใช้จ่าย (ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าเทอมลูก ในระยะเวลา 5-20 ปีได้)

ทำความเข้าใจและความแตกต่างกัน คือ

1. การประกันชีวิต (Life Insurance) เป็นเบี้ยประกันสะสม คืนเงินตอนครบสัญญา หรือ เวนคืนกรมธรรม์ได้ภายใน 2 ปี ได้รับเงินตามระยะเวลาที่ระบุไว้ (เหมาะสมกับผู้ที่อายุน้อย วางแผนอนาคตได้ เพราะทำง่าย เบี้ยประกันถูก , ถ้าอายุมากสุขภาพไม่ดี ส่วนใหญ่ไม่ผ่านการพิจารณาอนุมัติ หรืออาจมีสัญญาแนบท้าย ไม่คุ้มครองโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ได้)

2. การประกันสุขภาพ (Health Insurance) เบี้ยทิ้ง รายปี (ต้องซื้อประกันชีวิตก่อนแล้ว เลือกซื้อประกันสุขภาพได้ จะซื้อหรือไม่ก็ได้)

3. การประกันอุบัติเหตุ (Accident Insurance) เบี้ยทิ้ง รายปี (จะซื้อประกันชีวิตหรือไม่ ก็ได้ซื้อ) สุนัขกัด หกล้ม ตะปูตำ งูกัด รถชน มอเตอร์ไซด์ล้ม โดนลอบทำร้าย และอื่น ๆ ที่เกิดจากอุบัติเหตุ เคลมค่ารักษาได้หมด (เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ผู้รับผลประโยชน์รับเต็มจำนวนทุนประกัน)

4. การประกันวินาศภัย (Non-Life Insurance) เบี้ยทิ้ง รายปี (ความคุ้มครองมุ่งเน้นที่ทรัพย์สิน)เบี้ยทิ้ง หมายถึง เมื่อซื้อแล้วความคุ้มครองมีผลภาย 1 ปีเท่านั้น ส่งหลายปีไม่มีสะสมให้ (คล้ายกับประกันรถ)

ศัพท์การทำประกันชีวิต นั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล มีรายได้มาก ควรทำมาก ,มีรายได้น้อย ควรทำน้อย

เพราะการทำประกันชีวิต คือการเฉลี่ยความเสี่ยงกลุ่ม เพื่อบริษัทประกันจะได้ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จ่ายผลประโยชน์ ตามที่ได้รับความคุ้มครอง ในกรมธรรม์ประกันภัย ให้แก่ ผู้เอาประกันภัย และผู้รับประโยชน์

ชีวิตคนนั้นมีเวลาจำกัด ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เราจึงต้องทำประกันชีวิตไว้ เพื่อคุ้มครองอนาคตได้ ในตอนแรกก็เป็นหนึ่งคนที่ มองข้าม การประกันชีวิต ทำให้ชีวิตขาดหลักประกันใด ๆ และไม่มีการออม จนวันนี้ได้เป็นตัวแทน จึงอยากให้ทุกท่าน ทราบถึงคุณประโยชน์ ความคุ้มครอง และแชร์ประสบการณ์ ในการทำประกันชีวิต เพื่อที่ท่านจะได้รับผลประโยชน์สูงสุด

คนส่วนใหญ่ คิดว่าพรุ่งนี้พวกเราทุกคนจะอยู่บนโลกนี้ และใช้ชีวิตเหมือนเดิม แต่ความเป็นจริง พรุ่งนี้เราอาจจากโลกนี้ไปก็ได้ หรือทุกเวลา ผู้ที่วางแผนชีวิตไว้ย่อมได้เปรียบกว่า ผู้ที่ไม่ได้วางแผนชีวิตอะไรเลย

เมื่อทำสัญญาประกันชีวิตแล้ว บางรายต้องตรวจสุขภาพ ได้ที่โรงพยาบาลเอกชน ออกเอง/ตัวแทนออกให้ครั้งละ 500 บาท หรือ ตรวจฟรี ที่ตึก AIA สำนักงานใหญ่ได้ตลอดเวลา

คำถามที่พบบ่อย
1. ทำประกันชีวิต เพื่อใคร ทำไมถึงต้องทำ ตอบ เพื่อตนเอง และผู้รับผลประโยชน์ (พ่อ+แม่+สามี+ภรรยา+ลูก) เพื่ออนาคตที่ไม่แน่นอน
2. ทำทุนประกันเท่าไรดี ตอบ เท่าที่คุณส่งได้ในปีนั้น และปีต่อ ๆ ไป โดยเป็นเงินออม พอส่งได้ไม่เกิดปัญหาทางการเงิน
3. อายุมากแล้ว จะทำประกันชีวิต ได้หรือไม่ ตอบ ได้ ถ้าสุขภาพแข็งแรง และไม่เกินที่กำหนดในกรมธรรม์ (65 ปี ทำได้อยู่)
4. สนใจทำประกันชีวิต ตัวแทนสะดวกพบ หรือไม่ และถ้าไม่ซื้อ จะว่าอะไรไหม ตอบ ได้ทุกเวลา โทรนัดล่วงหน้าก่อน ยินดีให้เอกสารและขอเวลานัดพบสัก 30-60 นาที เพื่ออธิบายและทำความเข้าใจ (ไม่ซื้อ ไม่ว่าอะไร ไม่คิดค่ารถ ยินดีให้บริการด้วยความเต็มใจ)
5. ซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพไปแล้ว จะมีประโยชน์ เมื่อไร ตอบ เมื่อเสียชีวิตทุกกรณี เงินนั้นจะให้กับผู้รับผลประโยชน์ หรืออยู่ครบสัญญา ได้รับเงินคืน 100% , และถ้าซื้อประกันสุขภาพไว้ เมื่อยามสุขภาพเราเจ็บป่วย สามารถเบิกค่ารักษาและได้รับเงินชดเชยด้วย

ท่านที่ทำประกันชีวิตส่วนใหญ่เริ่มต้นจากสาเหตุใด ?

1. เมื่อตนเองมีบุตร เอาไว้เป็นทุนการศึกษา หรือเป็นมรดกในอนาคตสำหรับลูก (เป็นหัวหน้าครอบครัวต้องการความคุ้มครอง)
2. เมื่อตนเอง ทำงานหนัก สุขภาพไม่ค่อยดี เริ่มเจ็บปวดและเข้าโรงพยาบาลบ่อย อยากได้การรับรักษาโรคที่ดีกว่านี้
3. เมื่อตอนเอง รู้สึกไม่ปลอดภัย เช่น เดินทางบ่อยครั้ง เข้าป่า เข้าพื้นที่อันตรายเสี่ยงภัย หรืออยู่พื้นที่โจรผู้ร้ายชุกชุม เกิดอาญชกรรมบ่อยครั้ง
4. เอาไว้เป็นเงินก้อนสุดท้าย เมือตนเองเกษียณ ไม่ได้ทำงานแล้ว5. ให้ลูกหลานทำทุน หรือไว้จัดงานครั้งสุดท้ายของชีวิต
6. เป็นเงินลงทุน ไว้ออมทรัพย์ระยะยาว เก็บปันผลตลอด และได้เงินคืน จากทุนประกัน
7. ประหยัดภาษี หักลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี (เป็นนโยบายของรัฐ ให้ประชาชนรู้จักการเก็บออมเงินไว้)
8. เพื่อความสบายใจของครอบครัว ว่ามีหลักประกัน ได้เงินก้อนแน่นอน ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา
9. วัยเริ่มทำงาน ทำให้คุณพ่อ คุณแม่ (เป็นผู้รับผลประโยชน์) เพื่อให้ท่านสบายใจ มีหลักประกันไว้

ข้อยกเว้นและโฆษียะ คือ ท่านต้องให้ข้อมูลความจริง สมบูรณ์ ไม่ปกปิด
(ถ้าให้ความเท็จ หรือ ปกปิด เช่น ป่วยเป็นโรคต่าง ๆ อยู่ แล้วไม่แจ้ง สุขภาพไม่ดีก่อนที่จะทำประกันชีวิต เมื่อทำประกันชีวิตไปแล้ว เกิดเสียชีวิตก่อน 2 ปี ทางบริษัทสืบทราบได้ว่า อาจแจ้งเป็นโฆษียะได้ คืนเบี้ยประกันให้ผู้รับผลประโยชน์แทน แต่ถ้าเลย 2 ปีไปแล้วถือว่ากรมธรรม์นั้นความสมบูรณ์)

สนใจติดต่อสอบถาม
หรือนัดพบ เพื่อศึกษา ทำความเข้าใจ ความคุ้มครอง ทุนประกัน เบี้ยประกัน
สิทธิประโยชน์ที่ท่านจะได้รับต่าง ๆ

โทร 062-0402415
เลขที่ใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต AIA 554777
Email : aiachiangraii@gmail.com

(ขอชื่อ อายุ อาชีพ ลักษณะการทำงาน รายได้ต่อปี ทุนประกัน ความต้องการซื้อประกันของท่าน เบอร์ติดต่อกลับ เพื่อคำนวณเบี้ยประกันได้ถูกต้อง) (บางท่านต้องการราคาเปรียบเทียบ ด้วยความยินดีครับ)
จะตอบเมล์กลับไปให้ครับ

ลูกค้าท่านใดต้องการซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ แจ้งนัดพบล่วงหน้าครับ